Sunday, October 31, 2010

แผนปรองดอง ที่ยังไม่ตกผลึกความคิด

มุมมอง คกก.ปรองดองของนายจาตุรนต์
นายจาตุรนต์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ชี้แผนปรองดองของรัฐฯ ไม่ใช่แผนปรองดองอย่างแท้จริง และอาจทำให้ประเทศประสบกับวิกฤตมากกว่าเดิม

นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี เห็นว่าแผนปรองดองของรัฐบาลที่มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาหลายคณะ ไม่ใช่แผนปรองดองอย่างแท้จริง นอกจากจะไม่ช่วยแก้ปัญหาแล้ว ยังทำให้ประเทศประสบกับวิกฤตมากกว่าเดิม ถือว่าแผนปรองดองไม่มีอยู่จริง เป็นการซ้ำเติมปัญหา และยังแสดงให้เห็นถึงความเป็นสองมาตรฐานของรัฐบาล โดยเฉพาะเรื่องของการเยียวยา ที่ช่วยเหลือแต่ในภาคธุรกิจ แต่กับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตมากถึง 88 คนรัฐบาลกลับละเลย ในขณะเดียวกันยังมีการกวาดล้างที่ทำให้พยานเกิดความหวาดกลัว และไม่กล้าออกมาเป็นพยานว่ารัฐบาลสั่งฆ่าประชาชน ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลชุดนี้ดำเนินการอยู่จึงเป็นสิ่งที่ร้ายแรงกว่าสมัย รัฐบาลเผด็จการด้วยซ้ำ

มติส.ส.เพื่อไทยหนุนแผนปรองดอง เรียกร้องรัฐบาลตกผลึกทางความคิด ดำเนินการให้เป็นรูปธรรม
ส.ส.พท.เห็นด้วยแผนปรองดองเรียกร้องรบ.ตกผลึกความคิด-ดำเนินการเป็นรูปธรรม

เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 7 กันยายน ที่พรรคเพื่อไทย มีการประชุมส.ส.พรรคร่วมกับกรรมการบริหารพรรค โดยมีนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน

ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุมนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ที่ประชุมได้พิจารณาข้อเสนอปรองดองของพรรคเพื่อไทย โดยที่ประชุมส่วนใหญ่เห็นด้วยในหลักการ รวมทั้งพิจารณาถึงผลสำรวจของประชาชนที่เห็นด้วยกับการปรองดองถึงร้อยละ 59

อย่างไรก็ตามยังเห็นว่าต้องรอความชัดเจนในการเริ่มต้นปรองดองของรัฐบาล และจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกฯ เพราะถือเป็นผู้นำในฝ่ายบริหาร แต่ยังเห็นภาพความขัดแย้งระหว่างนายกฯกับนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ที่เป็นผู้จัดการรัฐบาลอยู่ จนมองเห็นภาพความไม่ตกผลึกกัน จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลตกผลึกทางความคิด และดำเนินการให้เป็นรูปธรรม

ส่วนเรื่องตัวบุคคลของพรรคเพื่อไทย ที่จะไปเจรจานั้น พรรคเห็นว่าเรื่องตัวบุคคลไม่สำคัญเท่าหลักการในการเจรจา อย่างไรก็ตามในส่วนของพรรคทั้งกรรมการบริหารและส.ส.ก็พร้อมที่จะเจรจาได้อยู่แล้ว หรือแม้แต่ทางรัฐบาลเห็นถึงความไม่สบายใจในการหารือก็แจ้งมาได้ เช่นเดียวกันกับทางเพื่อไทยหากไม่สบายใจในการพูดจากกับใครก็ต้องบอกกัน

"สมชาย"รับพท.เสียงแตกแผนปรองดองลั่นพร้อมเป็นตัวแทนเจรจาถ้าทำบ้านเมืองสงบ

นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์วันที่ 7 กันยายนถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ ว่า ในหลักการตนเห็นด้วย การได้มาทำความเข้าใจกันจะทำให้ประเทศชาติสงบสุขซึ่งเป็นยอดปราถนาของทุกคนที่ต้องการเห็นทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน ส่วนวิธีการจะทำอย่างไรนั้นให้คนที่มีส่วนเกี่ยวข้องไปดำเนินการเอง ทั้งนี้เห็นว่าปัจจัยสำคัญที่จะทำให้แผนปรองดองนี้ประสบความสำเร็จคือความจริงใจของทุกฝ่าย ขาดไปฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่ได้จะเอาเฉพาะพรรคเพื่อไทยและพรรคประชาธิปัตย์มาคุยกันเพียง 2 ฝ่ายก็ไม่ได้ มางุบงิบคุยกัน 2 พรรคมันก็ไม่สมบูรณ์ เพราะบ้านเมืองมีด้วยกันหลายฝ่าย ซึ่งแล้วแต่ว่าฝ่ายไหนที่รู้สึกว่าตัวเองไม่ได้รับเป็นธรรมหรืออยู่ในมุมมืดก็สามารถเข้ามามีส่วนร่วมได้

“ให้อภัยกันได้ก็ต้องให้อภัยกัน แต่ต้องไปดูกฎหมายด้วยว่าอย่างไร เพราะกฎหมายบ้านเมืองก็ต้องมีอยู่ ซึ่งต้องดูตามความเหมาะสม”นายสมชายกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามตัวบุคคลที่พรรคเพื่อไทยจะส่งไปเจรจา นายสมชาย กล่าวว่า ตนไม่ทราบเป็นเรื่องของพรรคเพื่อไทย แต่ตนเห็นว่าพรรคเพื่อไทยจะส่งใครก็ได้เป็นเรื่องของแต่ละฝ่าย ซึ่งต้องให้เกียรติซึ่งกันและกันจะไปตำหนิว่ากล่าวกันไม่ได้

เมื่อถามว่ายินดีทำหน้าที่หรือไม่หากได้พรรคเพื่อไทยมอบให้เป็นตัวแทนในการเจรจา นายสมชาย กล่าวว่า ก็ต้องถามพรรคเพื่อไทย ซึ่งตนไม่อยากพูดว่ายินดีหรือไม่เพราะไม่เช่นนั้นจะหาว่าตนอยากอีก แต่พูดได้เพียงว่าอะไรก็ตามที่จะทำให้ชาติชาติบ้นเมืองมีความสงบเรียบร้อยก็ต้องช่วยกันในฐานะคนไทยทุกคน คนที่เป็นผู้ใหญ่ถ้าช่วยได้ก็ต้องช่วย

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีการดึงให้องค์กรต่างประเทศมามีส่วนร่วมในแผนปรองดองทั้งที่เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องของประเทศ นายสมชาย กล่าวว่า ในเรื่องดังกล่าวตนไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งต้องดูว่าเป็นเรื่องภายในประเทศไทยหรือไม่ซึ่งหากเป็นเรื่องภายในประเทศการมาแทรกแซงก็ไม่เหมาะสม แต่หากเป็นเรื่องที่เขาช่วยเสนอแนะความคิดเห็นในแนวทางที่ปราถนาดีไม่ได้มาแทรกแซงอะไรก็น่าจะไม่เป็นอะไร ก็ควรที่จะลองฟังเขาดู

เมื่อถามถึงกรณีที่ส.ส.เพื่อไทยเสียงแตกในการสนับสนุนแผนปรองดอง นายสมชาย กล่าวว่า เป็นธรรมดาเพราะพรรคเพื่อไทยมีส.ส.มากเกือบ 200 คนแต่ตอนนี้เป็นเรื่องของมติพรรคไปแล้วซึ่งถือว่าเป็นจุดยืนของพรรค

ส.ส.พท.โวย"ปลอดประสพ"ทำผิดพลาดเร่งเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ

นายสุชาติ ลายน้ำเงิน ส.ส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์วันที่ 7 กันยายน ก่อนการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย วาระสำคัญจะเป็นการหารือถึงกรณีที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยเสนอแผนปรองดอง 5 ข้อ ว่า เป็นการตัดสินใจที่เร็วไป อีกทั้งส.ส.ในพรรคเองก็ไม่รับทราบเรื่องนี้มาก่อน จึงคาดว่าจะมีส.ส.อภิปรายประเด็นดังกล่าวอย่างกว้างขวางและคาดว่าส.ส.ส่วนใหญ่จะคัดค้านแผนดังกล่าวรวมถึงตนด้วย

อย่างไรก็ตามไม่ได้หมายความว่าตนและส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่ต้องการสร้างความปรองดองในชาติ เราทุกคนอยากเห็นประเทศมีความปรองดอง สมานฉันท์ แต่เห็นว่าที่ผ่านมารัฐบาลไม่มีความจริงใจจะปรองดอง กระบวนการสร้างความปรองดอง รัฐบาลในฐานะผู้มีอำนาจต้องเป็นฝ่ายเริ่มหรือยื่นมือออกมาก่อน ไม่ใช่พรรคเพื่อไทยและคนเสื้อแดงที่อยู่ในฐานะผู้ถูกกระทำ การที่มีคนเสื้อแดงบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก ย่อมเป็นไปได้ยากที่พรรคเพื่อไทยจะเป็นฝ่ายเริ่มต้นยื่นข้อเสนอให้รัฐบาลมาปรองดองด้วย ทั้งนี้ข้อเรียกร้องของเรายังเหมือนเดิมคือจะเริ่มต้นปรองดองได้รัฐบาลต้องยุบสภา จัดให้มีการเลือกตั้งใหม่และต้องรับผิดชอบต่อความสูญเสียที่เกิดขึ้น

“สิ่งสำคัญ ต้องถามว่าที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ รองนายกฯ ได้ดำเนินการเรื่องใดบ้างที่แสดงให้เห็นว่ารัฐบาลต้องการสร้างความปรองดอง ตรงกันข้ามยังมีการไล่ล่าคนเสื้อแดง เช่น ที่จ.ลพบุรี มีการขึ้นบัญชีรายชื่อคนเสื้อแดง กว่า 2,000 คนเพื่อติดตามไล่ล่า ผมจึงคิดว่าการที่นายปลอดประสพเร่งออกมายื่นข้อเสนอปรองดอง โดยที่ไม่ถามความเห็นของผู้ที่เกี่ยวข้อง จึงเป็นเรื่องที่ผิดพลาด”

"ปลอดประสพ"ยอมรับถก"สุขุมพันธุ์-ทูต ตปท.-ทหาร-ยูเอ็น"คลอดแผนปรองดอง

นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซด์ ไทยแลนด์ ทางสถานีวิทยุ 97.0 เมกกะเฮิร์ตซ์ วันที่ 7 กันยายนยอมรับว่า แผนการปรองดอง 5 ข้อที่ได้ออกแถลงการณ์มีการหารือกันจริงระหว่างตนกับเอกอัครราชทูตต่างประเทศ,ม.ร.ว.สุขุพันธุ์ บริบัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพฯ,นักวิชาการต่างชาติของสหประชาชาติรวมทั้งนายทหาร

ทั้งหมดทั้งปวงและทุกคนที่เข้าร่วมมีความหวังดีและรักต่อประเทศไทย อย่างไรก็ตามถึงปัจจุบันคาดว่าเกิดยาก ส่วนของตนไม่หวั่นว่าจะโดนพรรคเพื่อไทยตำหนิถึงการกระทำดังกล่าว

"ขณะนี้ผมหวังว่าประชาชนจะออกมากดดันให้เกิดการปรองดองโดยมีสื่อมวลชนเป็นตัวกลางและในการหารือดังกล่าวก็มีทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม ยกเว้นกลุ่มเสื้อเหลือและเสื้อแดง เนื่องจากสุดขั้วเกินไป"

No comments:

Post a Comment