กล้วยน้ำว้า

กล้วยน้ำว้า จัดเป็นไม้วงศ์ MUSACEAE สกุล Musa จึงนับว่าเป็นที่รู้จักมากที่สุดในหมู่ผู้ยากไร้ จนมีคำพังเพยว่า "ถูกยังกะกล้วยน้ำว้า"

ที่ว่าถูกนั้นก็เห็นจะไม่ผิดหรอกถ้าเป็นประเทศสยามสมัยเมื่อหลายสิบปีก่อนแต่ปัจจุบันไอ้ที่ว่าถูกยังกะกล้วยน้ำว้าอันเป็นที่พึ่งของคนยากเมื่อครั้งก่อน ๆ นั้น หามีไม่แล้ว

สมัยที่นมกระป๋อง แป้งกระป๋องยังไม่มีจะชงให้ลูกกิน ก็ไอ้ลูกเหลือง ๆ อวบ ๆ นี่แล้วที่เอามาขูดใช้เนื้อของมันนั่นแล้วบดกับข้าวสุกให้ลูกกิน จนกระทั่งมันรอดเป็นเนื้อเป็นตัวเติบใหญ่จนมีโอกาสได้ชื่นชมกับ "ประชาธิปไตย" ที่ไทยแต่เก่าก่อนบ่เคยรู้จัก

แล้วไอ้ที่มากับประชาธิปไตยนี่แล้วในยุคนี้ก็คือ ราคาอันสูงส่งของมันจนไม่มีใครบังอาจเอาไปเปรียบเป็นคำพังเพยได้อีกแล้วเพราะมันได้เลื่อนฐานันดรขึ้นจนกระทั่งบัดนี้ขึ้นหน้าขึ้นตาเทียมกับของกินเล่นกินจริง ของคนไทยทุกชั้นไปแล้ว เช่น กล้วยฉาบ กล้วยตากอบน้ำผึ้ง เป็นต้น

นอกจากจะกินเมื่อยามที่มันสุกแล้วเวลาที่มันยังดิบนั้นก็เอาไปใส่แกงเผ็ดปลาไหลหรือกินแนมกับแหนมเนือง หรือเอาใส้ในหรือแก่นต้นกล้วยไปแกงส้มก็ได้อีก หรือจะเอาปลีกล้วยไปต้มยำกิน กินกับก๋วยเตี๋ยวผัดไทย หมี่กะทิก็ได้ ไม่มีใครว่าคุณน่ะยากไร้เสียเต็มประดาไปได้หรอก เพราะเดี๋ยวนี้เมนูอาหารเหล่านี้มันขึ้นโฮเต็ลกันทั้งนั้น

หรือเบื่อกินเต็มทีจะเอาใบไปขายเป็นภาชนะห่อหุ้มแทนถุงพลาสติกได้ ตาวิเศษแทบจะมาคำนับขอบคุณท่านถึงบ้านที่เดียว

ต้นกล้วยนี้ นอกจากจะเป็นพืชอเนกประสงค์แก่มนุษย์อย่างยิ่งเพราะใช้ประโยชน์ไปเสียหมด ตั้งแต่ยอดถึงโคนแล้วยามเจ็บไข้ก็ยังจะได้พึ่งพากันบางอย่างเสียด้วยจะบอกให้ เช่น ยางกล้วยจากใบ ใช้ห้ามเลือด โดยใช้ยางกล้วยจากใบหยอดลงที่บริเวณแผล

ผลดิบแก้โรคท้องเสีย เป็นยาฝาดสมานแผลในกระเพาะอาหาร และอาหารไม่ย่อย โดยใช้กล้วยดิบทั้งลูก บดกับน้ำให้ละเอียดและใส่น้ำตาลรับประทานหรือไม่อาจใช้กล้วยดิบ ตากแห้งบดเป็นผงเก็บไว้ใช้ยามที่จำเป็น อาจใช้ผสมกับน้ำผึ้งหรือน้ำอุ่นกิน

ผลสุกใช้เป็นยาระบายสำหรับผู้ที่เป็นโรคริดสีดวงทวารหรือผู้ที่มีอุจจาระแข็งโดยใช้หล้วยสุก 2 ผล ปิ้งกินทั้งเปลือก แต่ต้องระวังอย่าให้เปลือกไหม้

หัวปลีแก้โรคเกี่ยวกับ ลำไส้โรคโลหิตจางและลดน้ำตาลในเลือด

ข้อมูลทางเภสัชวิทยา
ผลกล้วยสุกทุกประเภทมีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรียและเชื้อราและผลกล้วยดิบทั้งเปลือกทุกประเภทมีฤทธิ์ต้านเชื้อราโดยเฉพาะเชื้อ Mycobacterium ซึ่งเป็นสารสกัดจากหัวปลีนั้น  มีฤทธิ์ต่อต้านแบคทีเรียชนิด Micrococcus pyogenes var. aureus.

"กินกล้วยน้ำว้าจะพาไทยเจริญ"