Monday, November 22, 2010

จดหมายเปิดผนึก : โรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม

เรียน เพื่อน นปช.ที่เคารพรักทุกท่าน

บางท่านอาจจะสงสัยว่าเหตุใด ในสัปดาห์นี้ สมาชิกประชาธิปัตย์ถึงได้ออกมาโจมตีข้อความในสมุดปกขาว สี่เดือนหลังจากที่สมุกปกขาวกว่า 50,000 สำเนาถูกเผยแพร่ ดูราวกับว่า ดร.บุรณัชย์ สมุทรักษ์และสมาชิกพรรคคนอื่นออกมากล่าวหาว่าสมุดปกขาวมีข้อความที่ละเมิดกฎหมายหมิ่นพระบรมเดชานุภาพทุกวัน ซึ่งเป็นข้อกล่าวหาที่ไม่มีมูลและจนตรอก

เหตุใดพรรคประชาธิปัตย์ถึงเลือกที่จะโมโหโทโสกับข้อความในสมุดปกขาวที่ถูกเผยแพร่เมื่อสี่เดือนในเวลานี้? สัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้เข้าร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารของสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยมที่ประเทศแอฟริกาใต้ ซึ่งในการประชุมดังกล่าว มีการพิจารณาถึงเรื่องการระงับสมาชิกภาพชั่วคราวหรือขับไล่พรรคประชาธิปัตย์ออกจากสหพันธรัฐ สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์เดินทางไปยังแอฟริกาใต้พร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางที่เต็มไปด้วยคำอธิบายที่ซ้ำซาก เข้าข้างตนเอง และไม่มีมูลความจริง ซึ่งเป็นข้อมูลเดียวที่พรรคใช้อธิบายให้คนในประเทศไทยฟังเมื่อ 6เดือนที่ผ่านมา โดยปกติแล้ว มาตรฐานทางด้านสิทธิมนุษยชนของสมาชิกสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยมนั้นไม่ใช่มาตรฐานสิทธิมนุษยชน “แบบไทยๆ” ดังนั้นจึงมีความเป็นได้ว่า พรรคประชาธิปัตย์อาจจะไม่ได้รับการต้อนรับขับสู้อย่างที่ได้คาดหวังเอาไว้ในแอฟริกาใต้ และการตอบโต้เรื่องสมุดปกขาวหลังจากเลยมาสี่เดือนแล้ว อาจเป็นเพราะพรรคประชาธิปัตย์ถูกสมาชิกสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยมประณามเรื่องการทำลายระบอบประชาธิปัตย์ในประเทศไทยลงอย่างไม่เหลือชิ้นดี

นอกจากจะโมโหเพราะพรรคถูกทำให้อับอายแล้ว อีกเรื่องที่สำคัญคือ การที่พรรคประชาธิปัตย์เสียหน้าในเวทีโลกเป็นภัยอย่างยิ่งต่อรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ อย่างที่เรารู้ดีว่า สาเหตุที่อภิสิทธิ์ถูกกลุ่มอำมาตย์เลือกให้มาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น ก็เพราะว่าอภิสิทธิ์ดูสุขุมนุ่มนวล ทันสมัย และเป็นผู้ดี ซึ่งคุณสมบัติดังกล่าวเป็นเกราะกำบังภัยกลุ่มอำมาตย์ได้เป็นอย่างดี และในเวลานี้ มีสัญญาณจากประชาคมโลกที่ชัดเจนว่า ความมีประสิทธิภาพในการใช้นายอภิสิทธิ์บังหน้านั้นกำลังเสื่อมลง โดยในวันนี้ มีรายงานข่าวว่านายกรัฐมนตรีอังกฤษ นายเดวิด คาเมรอน ยกเลิกแผนการเดินทางมาเที่ยวเมืองไทยในช่วงวันหยุดคริสต์มาส โดยส่วนหนึ่งเพราะมีความกังวลเกี่ยวกับเรื่องสิทธิมนุษยชนในประเทศไทย ซึ่งรัฐบาลของนายคาเมรอนนั้นเป็นรัฐบาลผสม โดยมีพรรคเสรีประชาธิปไตยเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และพรรคการเมืองดังกล่าวเป็นสมาชิกของสหพันธรัฐพรรคการเมืองเสรีนิยม

นายอภิสิทธิ์รู้ดีว่าเมื่อใดที่เปลือกของเขาถูกเปิดเผย ชะตากรรมของเขาจะไม่ต่างจากผู้นำคนก่อน กลุ่มอำมาตย์จะกำจัดนายอภิสิทธิ์อย่างไม่เป็นไปตามระบบเหมือนอย่างที่ทำกับผู้นำคนก่อนหน้าเขา ไม่ว่าจะเป็นการใช้วิธียุบพรรค ยุบสภา ใช้บริการกลุ่มพันธมิตร ทำรัฐประหาร และการโยนนายอภิสิทธิ์ออกจากตำแหน่งนั้นดูเหมือนจะเป็นเรื่องง่ายที่สุดสำหรับกลุ่มอำมาตย์

ยิ่งประชาคมโลกรับรู้ถึงพฤติกรรมอันน่าตกใจของพรรคประชาธิปัตย์มากขึ้นเท่าไร พรรคประชาธิปัตย์ก็จะใช้ชาติ วัฒนธรรม และสถาบันมาเป็นข้ออ้าง ข้อกล่าวหาที่พรรคประชาธิปัตย์ใช้โจมตีเรา เป้าหมายไม่ใช่เพื่อการปกป้องระบอบกษัตริย์ เพราะบทความหรือเอกสารของเราไม่มีข้อความที่วิจารณ์หรือทำลายสถาบันพระมหากษัตริย์ เป้าหมายที่แท้จริงของพรรคเป็นไปเพื่อจะปิดปากประชาชนไม่ให้วิจารณ์พรรคประชาธิปัตย์ด้วยความชอบธรรม ในกรณีเรื่องการดำเนินนโยบายและการกระทำที่ผิดกฎหมายของพรรค ในอดีต ผู้คนมักจะกินยาอายุวัฒนะเพื่อความเป็นอมตะ แต่ปัจจุบัน พรรคประชาธิปัตย์ใช้ข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแทนยาอายุวัฒนะ เพื่อหวังจะใช้เป็นเกราะป้องกันตนเองจากสิ่งต่างๆที่พรรคคิดว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงทางอำนาจของตนเอง

ความรู้สึกที่ประชาชนไทยมีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ไม่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกที่มีต่อพรรคประชาธิปัตย์ การที่พรรคต้องการรักษาอำนาจตนเองในรัฐบาล โดยพยายามอ้างถึงการปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นการบิดเบือนทำให้ประชาชนเข้าใจผิดถึงความสัมพันธ์ที่ไม่มีมูล และยุทธศาสตร์ที่เลวร้ายนี้แสดงให้เห็นว่านายอภิสิทธิ์และพวกพ้องสามารถสละได้ทุกอย่างเพื่อที่จะรักษาอำนาจ การยอมสละความจริง ระบอบประชาธิปไตย และชีวิตของประชาชนกว่า 80 คน เพื่อที่จะรักษาอำนาจของตนเอง เราคงจะอดสงสัยไม่ได้ว่าพรรคประชาธิปัตย์จะทำอะไรต่อไป

ด้วยความนับถือ

นายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม
Link
http://robertamsterdam.com/thai/?p=582

ข่าวอ้างอิง
สำนักข่าวไทย
“วัชระ” จี้ “ผบ.ตร.” จัดการสมุดปกขาว “อัมสเตอร์ดัม” หมิ่นศาล
วันพุธ ที่ 17 พ.ย. 2553 รัฐสภา 17 พ.ย. - นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.กทม. พรรคประชาธิปัตย์ แถลงถึงกรณีที่สำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ ซึ่งจัดพิมพ์สมุดปกขาว “การสังหารหมู่ : ที่กรุงเทพฯ” เมื่อวันที่ 1 ก.ย.53 โดยมีเนื้อหาข้อความหมิ่นศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ และศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ระบุศาลถูกครอบงำ ว่า ที่ตนรับไม่ได้คือมีการหมิ่นสถาบัน นอกจากนี้ ในคำนำของหนังสือดังกล่าว ยังมี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เขียนคำนำ โดยไม่ใช้ยศพระราชทานนำหน้า แต่ใช้คำว่า “ดร.ทักษิณ” แทน ซึ่งคำนำ เบื้องต้น ดร.ทักษิณ ได้เขียนว่า เป็นผู้ว่าจ้างให้สำนักกฎหมายอัมสเตอร์ดัม แอนด์ เปรอฟ เป็นผู้เข้ามาทำการศึกษา กรณีเหตุการณ์เสื้อแดง ในวันที่ 10 เม.ย. 53 และวันที่ 19 พ.ค.53 ซึ่งเป็นที่รู้กันว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ว่าจ้างนายโรเบิร์ต อัมสเตอร์ดัม นักกฎหมายและเป็นทนายความต่างชาติให้ พ.ต.ท.ทักษิณ

นายวัชระ กล่าวว่า มีประชาชนไปพบหนังสือดังกล่าว จึงร้องเรียนมายังตน ดังนั้น ในฐานะที่ตนเป็น ส.ส. รับไม่ได้กับพฤติกรรมดังกล่าว จึงยื่นหนังสือดังกล่าวให้กับนายชัย ชิดชอบ ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อส่งให้กับ พล.ต.อ.วิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ไปดำเนินการตามกฎหมายอย่างเฉียบขาดต่อไป .

No comments:

Post a Comment