Tuesday, November 30, 2010

หอไอเฟล: ประภาคารเหล็กผงาดค้ำเหนือศักดินา

โดย เพ็ญ ภัคตะ
ปีนป่ายใต้แสงสุรีย์สาดข
ณะที่อากาศธาตุสงัดสงบ
ช่อผกาช่วงชั้นที่หลั่นทบ
สยายกลีบยามพลบจุมพิตนภา

จากเปลวไฟในกมลคนนับล้าน
จุดโคมประภาคารแสวงหา
เคี่ยวความฝันสัญลักษณ์นครา
ประกาศแก่ดินฟ้าจบจักรพาล

จึ่งกอบเศษกิ่งเสนเป็นก้านแย่ง
สนิมเหล็กร้อนแรงสีแดงฉาน
ถักโยงเส้นใยไต่ทะยาน
ผงาดเหนือหมู่วิมานเพชรอำไพ

ปีนป่ายต้านท้าพายุฝน
ในนามสามัญชนคนยิ่งใหญ่
มิเคยหวั่นอสนีบาตอำนาจใด
หวดกระหน่ำแค่ไหนไม่ครณา

ยังจะมีสิ่งใดให้เจ็บปวด
เราคือกรวดทรายดินหินผา
เดิมพันแล้วด้วยชีวิตแลกอิสรา
เพื่อให้โลกรู้ค่า "คนส่องโคม"

สุดหอคอยใช่สิ้นแคว้นอนันตเขต
เยื้องกรายชายเนตรยลโฉม
มหานครทองทาหลังคาโดม
เลือนละลิบเล็งโลมดั่งเวียงร้าง

ที่สุดของชีวิตดวงจิตซ้อน
ที่สุดแห่งเชิงตะกอนใช่กลิ่นสาง
ลงบันไดด้วยใจที่ละวาง
ขออยู่ข้างชาวประชาสามัญชน

เขียนที่หอไอเฟล ตอนเรียนจบปริญญาเอกใหม่หมาดปี ๒๕๓๙ ตั้งใจว่ากลับไปประเทศไทยจะย้ายงานจากสำนักราชเลขาธิการ ไปเริ่มต้นใหม่ที่ไหนสักแห่ง

ตีพิมพ์ครั้งแรกใน "ศิลปวัฒนธรรม" ปี๒๕๓๙

No comments:

Post a Comment