Tuesday, November 16, 2010

อนิจจาปุถุชนทุรนรั้น

น่าจะเกิน 20 ปี นะ เคยอ่านกลอนนี้ โดนใจ.ใช่เลย จำไม่ได้ว่าท่านผู้ใดเป็นผู้เขียน พยายามฟื้นความจำเอามาปะติด ปะต่อ ขออนุญาต นำมาเพื่อเป็นประโยชน์กับผู้คนที่กำลังมองหาสัจธรรมของชีวิต

ผ่านลมร้อนลมหนาวหลายคราวครั้ง.....ชีวิตแห่งหวังยังโหยหา
เคลือบรอยยิ้มกลบทางรางน้ำตา...........ปกปิดความปวดปร่าไว้มิดชิด
ทุกด้านที่พบเห็นเป็นเช่นนี้..............วันหนึ่งร้ายวันหนึ่งดีมีถูกผิด
ในความงดงามมีหนามพิษ..............ในความสวยมีจริต มีเล่ห์กล
ในอารมณ์ยินดีมีแอบแฝง..............ในความแจ้งมีมุมอับอาจสับสน
ทว่าใครลุ่มหลงหลงไม่คงทน............ก็ตกตนสมเพชเวทนา
ล้วนสวมตัวหัวโขนแสดงบท............เป็นไปตามกำหนดแห่งตันหา
มีความใคร่ความอยากมากมารยา..........อนิจจาปุถุชนทุรนรั้น
ธรรมเนียมปีใหม่ให้อวยพร..........ต่างก็ป้อนความหวานหว่านความฝัน
ส่งความสุขสดใสให้แก่กัน..............ซึ่งแท้จริงนั้นคืออะไร ?
บ้างเพราะรักเพราะศรัทธาจากใจจริง........บ้างกลอกกลิ้งเสแสร้งตามวิสัย
ใครเล่าจะมองเห็นเป็นเช่นใด............นอกจากตนรู้ใจของตนดี
ไม่มีพรใดๆ ให้ใครอื่น.................ความสดชื่นไม่ได้เกิดจากพรที่
หยิบยื่นส่งให้กันในวันนี้ ...............เพียงเพื่อทอดไมตรีชั่วครั้งคราว
แต่อยากบอกเพื่อนรักให้พักผ่อน..........ดับความเร่าความร้อนทุกย่างก้าว
ชำระใจหมดจดจากขื่นคาว.............ระงับความแตกร้าวทุกลีลา
แล้วส่งความจริงใจให้แก่กัน.............มิใช่มุ่งฟาดฟันด้วยริษยา
ทั้งผู้น้อยผู้ใหญ่ให้ราคา...............เพราะต่างมีคุณค่าเสมอคน
อาจแตกต่างทางฐานะทางหน้าที่.........แต่ถ้าไร้อวดดีมีเหตุผล
สังคมย่อมมิยับมิอับจน................แหละย่อมผ่านมืดมน อนธการ

No comments:

Post a Comment