ประวัติศาสตร์ ไม่อาจจดจารวีรกรรมของวีรชนได้หมดทุกด้าน ทุกแง่มุม แต่โลกทั้งใบได้ถูกขับเคลื่อนไปสู่ความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย การสืบทอดเจตนาของผู้กล้าผ่านกาลเวลายิ่งนาน ก็ยิ่งเข้มข้น ไม่จางหาย
เดินทางไปหลายอำเภอ หลายจังหวัดได้เห็นผู้คนตื่นตัว สนใจการเมืองทุกช่วงวัย มีทั้งหนุ่มสาวจนถึงผู้สูงอายุ เป็นปรากฏการณ์ ที่ไม่เคยมีมาก่อน เป็นสัญญาณบอกว่าประชาชนหมดความอดทน อดกลั้นแล้ว กับสิ่งที่เขาได้รับ ที่เป็นการตอกย้ำความเข้าใจในสิ่งที่เขาเคยสงสัยต่อผู้ปกครอง ในการเอารัดเอาเปรียบ ความตายของพี่น้องของเขาที่ราชดำเนินและราชประสงค์ เป็นคำอธิบายบ่งบอกถึงความอำมหิต ดิบ ถ่อย ของปีศาจ และเป็นลางร้ายของเหล่าอำมาตย์เผด็จการใกล้สูญพันธุ์
ถึงวันนี้ แม้ผู้ปกครองสามารถครอบงำสื่อได้ทั้งหมด ก็ไม่สามารถปิดปากประชาชนได้ ความตายที่เกิดจากความอำมหิต ดิบ ถ่อย ได้ถูกพูดกันไป ปากต่อปาก ทั่วทั้งแผ่นดินแล้ว
ความเปลี่ยนแปลงถูกขับเคลื่อนไปอย่างไม่เคยหยุด ประวัติศาสตร์จะไม่ถูกเขียนโดยผู้ชนะเพียงฝ่ายเดียวอีกต่อไป จาก 2475 ถึง 2553 ประชาชนไม่ได้โง่ อย่างที่เหล่าอำมาตย์คิด และคนในเมืองไม่ได้ฉลาดกว่าคนบ้านนอก การตื่นตัวทางการเมืองของคนต่างจังหวัดมีมากกว่าคนกรุงเทพฯ จะเห็นได้จากการใช้สิทธิเลือกตั้ง. ผู้ที่รับราชการ ผู้ที่ประสบความสำเร็จทางการค้า กระทั่งเศรษฐีใหม่ล้วนเป็นคนมาจากต่างจังหวัดและชนบททั้งสิ้น
การหลั่งไหลของกระแสวัฒนธรรมโลกไม่ได้หยุดอยู่ที่เมืองหลวง แต่มันเคลื่อนตรงเข้าสู่ทุกหนทุกแห่งที่เปิดรับทาง internet ข้อมูลข่าวสารทุกชนิดไม่มีใครปิดกั้นได้ ความเน่าฟอนเฟะ น่าสะอิดสะเอียน น่าขยะแขยง ของคนในสังคมไหนก็ตาม จะถูกแฉจนหมดเปลือก
สื่อไหนก็ตามที่ยังทำตัวเป็นสุนัขรับใช้ เห่า หอน ตามสัญชาตญาณดิบ จะถูกปฏิเสธ
คำแก้ตัวของผู้ปกครองที่กระทำการอันโหดเหี้ยมกับประชาชน ต่อประชาคมโลกจะถูกจับตามอง
การเอารัดเอาเปรียบผลผลิตทางการเกษตรด้วยเล่ห์เหลี่ยมกลโกงของพ่อค้าที่สมคบกับข้าราชการเลวจะถูกทวงถาม
กรรมกรกับผู้ประกอบการและรัฐบาลจะต้องมีความสำคัญเท่าเทียมกัน
เงินภาษีทุกบาททุกสตางค์ที่ประชาชนเสียไปเป็นเงินเดือนข้าราชการ เป็นงบประมาณทุกรูปแบบจะถูกตรวจสอบจากภาคพลเมือง
ความเปลี่ยนแปลงกำลังเกิดขึ้นในทุกอนุภาคของสังคมในทุกเวลา ตามกระแสโลก ตามธรรมชาติ จะช้าหรือเร็วขึ้นอยู่กับขนาดของความโหดเหี้ยม อำมหิต ดิบ ถ่อย ของผู้ปกครอง เป็นตัวเร่ง
โซ่ตรวน กำลังถูกกระชากออกจากประตูที่ปิดกั้นความจริง เพื่อเผยให้เห็นความทุกข์ยาก และความยิ่งใหญ่ของประชาชน
ใบไม้แห่งวีรชน ในอดีตและปัจจุบันที่ร่วงลงดินไม่สูญเปล่า ล้วนเป็นปุ๋ยชั้นดีที่บำรุงราก ใบ และลำต้นประชาธิปไตยให้เติบใหญ่ในชนบท ในขณะที่ใบไม้ในเมืองหลวงก็เริ่มจะเหลีองตามกาลเวลา รอปลิดขั่วใบหล่นลงบนพื้นคอนกรีต หาประโยชน์อะไรไม่ได้
ถ้าจะเส้นดี หรือไม่ก็ลอยตัวเหมือนลูกกระโป่ง
ReplyDeleteสิบพระยา มีนาล้านไร่ เก้าสิบส่วนไพร่ เช่าช่วงทำกิน
ReplyDelete