Sunday, September 12, 2010

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ กับสถานการณ์เมืองไทย...ในปัจจุบัน

ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช กับสถานการณ์การเมืองไทย...ในปัจจุบัน

หากจะกล่าวถึงปราชญ์แห่งสยามประเทศ หลายคนคงจะปฏิเสธไม่ได้ว่า ฯพณฯ ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช เป็นหนึ่งในปราชญ์หลายๆท่านที่มีผลงานให้เราศึกษาอยู่ไม่น้อย ปราชญ์การเมืองผู้รังสรรค์ผลงานผ่านบทกวี ได้สร้างสรรค์อัญมณีทางความคิดไว้มากมาย เรื่องหนึ่งที่เห็นได้ชัดเจนคือเรื่อง "สีแผ่นดิน" บทประพันธ์เรื่องนี้เหมาะนัก ที่จะใช้ศึกษาถึงหัวใจอันแท้จริงของระบอบประชาธิปไตย เพราะนวนิยายอิงประวัติศาสตร์เล่มนนี้ บอกให้เราทราบถึงเมื่อครั้งที่เรายังไม่เปลี่ยนแปลงการปกครอง อาจเรียกได้ว่าตั้งแต่สมัยที่เรายังไม่มีคำแปลของคำว่า Democracy บอกให้เราทราบว่าเราเปลี่ยนแปลงการปกครองทำไม เพื่ออะไร และเพื่อใคร ยิ่งกาลเวลาผ่านไปนวนิยายเล่มนี้ยิ่งทรงคุณค่าสำหรับยุคสมัยที่ใครๆ อาจหลงลืมไปแล้วว่าประชาธิปไตยคืออะไร...?

นวนิยายเล่มนี้ยังมีการนำไปสร้างภาพยนตร์อีกด้วย ลองไปหาอ่านหาชมกันดู
แต่คำกล่าวของปราชญ์การเมืองท่านนี้ ที่จะนำมากล่าวถึงในบทความนี้นั้น ผู้เขียนได้มีโอกาสอ่านเจอในหนังสือเรียนเรื่อง "มนุษย์กับสังคม : Human and Society" ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เรื่องมนุษย์กับการเมือง ซึ่งเป็นย่อหน้าเล็กๆ แต่อ่านแล้วได้ความหมายลึกซึ้ง...ยิ่งใหญ่

ท่านกล่าวไว้ว่า "ตามประวัติศาสตร์โลกไม่เคยปรากฎว่ามีประเทศใดที่เป็นประชาธิปไตยได้ภายในร้อยปี เพราะประชาธิปไตยนั้นมิได้อยู่ที่เครื่องมือต่างๆ แห่งระบอบประชาธิปไตย เช่น รัฐสภา และการเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่อยู่ที่จิตใจของคนทั้งประเทศเป็นสำคัญ" ลองวิเคราะห์กันดูครับว่า มีประโยคใดที่ผิดจากความจริงสำหรับสังคมไทยบ้าง ไทยมีประชาธิปไตยมาร้อยปีแล้วหรือ...? ยังครับแค่ 76 ปี แล้วเราไปให้ความสำคัญกับเครื่องมือของระบอบมากว่าจิตใจประชาธิปไตยของคนในชาติใช่หรือไม่...?

เมื่ออ่านแล้วกลับมาคิดถึงประเทศไทย ก็ยังคงจะต้องมีการเผชิญหน้ากันทางการเมืองอีกหลายครั้ง อายุของประชาธิปไตยก็ยังไม่นานพอ คนในชาติสวนใหญ่ก็ยังมิได้ตระหนักถึงหัวใจของระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริงว่าอะไรคือสิทธิ อะไรคือหน้าที่ เราเลือกตั้งไปทำไม แล้วทำไมต้องเลือก...?

เราประท้วงอะไร ประท้วงกันทำไม ใครเป็นคนพามา แล้วพามาถึงไหน หลงทางหรือไม่การกระทำของเราพัฒนาประชาธิปไตยได้จริงหรือไม่ เปิดใจศึกษาสักนิด เพราะมีสิ่งที่ทำให้เราได้คิดมากมาย และเมื่อนั้น ก็จะถึงที่หมายของประชาธิปไตยที่แท้จริง...

No comments:

Post a Comment