Tuesday, January 18, 2011

....."แด่แม่...ด้วยดวงใจ"

หากชีวิตของเราเปรียบดั่งต้นไม้
แม่ก็คือรากแก้วอันมั่นคง
คอยส่งกำลังบำรุง
ให้ลำต้นเติบใหญ่แผ่กิ่งก้านสาขา
ผลิบานดอกใบออกผล
ให้เป็นต้นไม้ที่สมบูรณ์
บนโลกกว้าง.....หนทางยาวใกล ทุกก้าวที่มุ่งไปล้วนแล้วแต่มีที่มา

เราคงจะไม่ลืมว่า ก้าวที่เข้มแข็งมุ่งมั่นในวันนี้นั้น....คือก้าวที่เคยเตาะแตะ
ล้มลุกคลุกคลานมานับครั้งไม่ถ้วน

และยิ่งกว่านั้น...เราคงจะไม่ลืมว่า...มีสองมือของใครคนหนึ่ง คอยจับจูง
ให้เราหัดก้าวเดิน เสียงปรบมือที่คอยให้กำลังใจ ถ้อยคำปลอบโยนในยาม
ที่เราร้องไห้ ผู้ที่ทำให้เรามั่นใจได้ทุกครั้ง ด้วยวงแขนอบอุ่นที่โอบกอดเรา
อย่างทะนุถนอมเสมอ เราก้าวผ่านช่วงเวลาเหล่านั้นมาเนิ่นนาน แต่ไม่เคย
ไกลเกินกว่าสายใยแห่งความรัก และความผูกพันจะเอื้อมถึง

คืนหนึ่งบนฟากฟ้าที่พราวพร่างด้วยหมู่ดาว
ยังจำได้ถึงนิทานก่อนนอนเรื่องแล้วเรื่องเล่า ที่เรารบเร้าขอฟังอีกอย่างไม่รู้เบื่อ
กับน้ำเสียงอันอ่อนโยนที่เจือด้วยความปราถนาดีในโลกนี้.....จะไม่มีใครทุ่มเทสิ่ง
ดี ๆ ให้กับชีวิตของเราได้เทียบเท่ากับแม่......คงไม่มีอีกแล้ว

ก้าวแรกที่เริ่มออกสู่โลกกว้าง คือวันแรกที่เราเริ่มไปโรงเรียน
สองมือเล็ก ๆ ของเราโอบคอแม่เหนียวแน่น จนยากที่จะมีใครมาพรากเราไปจาก
แม่ได้ ด้วยเสียงร้องไห้จ้าและน้ำตาที่นองหน้า บอกให้แม่รู้ว่า....เราหวาดหวั่นต่อ

โลกกว้างใบนี้เพียงใด
แต่สุดท้าย.....แม่ก็ปล่อยให้เราได้เรียนรู้ถึงการอยู่ห่างจากอกแม่จนได้
เนื่องจากเพราะแม่รู้ดีว่า...วันหนึ่งข้างหน้าเราต้องก้าวออกไปเผชิญโลกกว้าง

เพียงลำพัง แม่รู้ดีว่า.....ไม่มีแม่คนใดสามารถที่จะอยู่เคียงข้างลูกไปได้ตลอดชีวิต
เมื่อยิ่งเติบโตขึ้น กลับเป็นเราที่ปล่อยให้แม่เป็นฝ่ายรอคอยบ้าง
มีกี่คืนที่แม่ยากจะข่มตาให้หลับใหล เพราะความห่วงใยลูก มีกี่วันที่แม่เฝ้ารอแล้ว
รอเล่า จดจ่อถึงลูกผู้แรมทางไกล........เพื่อไปเรียนรู้ชีวิต

เมื่อวันใดวันหนึ่งซึ่งเราพบกับบางปัญหา เรากลับหันหน้าเข้าหาคน
อื่น หรือเพื่อนเพื่อปรึกษากันเอง จนเรื่องบางเรื่องก็บานปลายจนยากแก้ไข เรา
เหมือนไม่ไว้วางใจแม่ ไม่เชื่อว่าแม่จะช่วยแก้ปัญหาที่มีอยู่นี้ได้ บางทีเราก็ประเมิน
แม่ต่ำกว่าความเป็นจริง

แม่มีทั้งประสบการณ์ ทั้งยังมีความรักและความปราถนาดี คนที่หัน
หน้าเข้าหาแม่ในยามมีอุปสรรคปัญหา จึงเป็นคนที่คิดถูกที่สุด....โชคดีที่สุด เพราะ
แม่มักมีทางออกที่ดีให้กับเราเสมอ

ขณะที่ใบไม้กำลังเปลี่ยนสี ฤดูกาลกำลังผ่านพ้นไป อาจจะมีใคร
สักคน ก้าวผ่านวันคืนอันมีค่าไปอย่างน่าเสียดาย โดยหลงลืมที่จะใส่ใจดูแลแม่
ไม่ใยดีต่อความรู้สึกที่แม่มอบให้

เขาคงไม่รู้หรอกว่า.....ช่วงเวลาที่ชีวิตจะได้อยู่ร่วมกับแม่ ได้ตอบ
แทนความดีของแม่นั้น น้อยลงไปทุกขณะตามจังหวะของเวลาที่ผ่านไปเราจึงอยาก
จะบอกกับทุกคนว่า...อย่าปล่อยให้ทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินไปเลยนะ

"รักแม่เสมอ" ฉันบอกรักแม่ไม่รู้เป็นครั้งที่เท่าไรในชีวิต แต่ถึงแม้
จะไม่บอก แม่ก็เข้าใจถึงความรู้สึกที่ฉันมีให้แม่ จากการดำเนินชีวิตไปในหนทางที่ดีงาม การเป็นคนดี เป็นการบอก "รัก แม่ที่ดีที่สุด แม่เคยบอกฉันไว้อย่างนั้น

"ความรักของแม่" จึงยิ่งใหญ่นัก เกินกว่ารักอื่นใดจะมาบดบังได้
ฉันจึงสามารถบอกกับตัวเอง และคนทั้งโลกได้อย่างมั่นใจว่า....
"ช่างเป็นโชคอันประเสริฐแท้ ที่ได้เกิดมาเป็นลูกของแม่"

......รักแม่เสมอ......
".... รักแม่ให้มาก ๆ เถิด ขณะที่แม่ยังอยู่ให้เรารัก...."

1 comment:

  1. แม่... เป็น ครู ของชีวิตลูก ความเมตตา กรุณาที่แม่...มีต่อลูก นั้นยิ่งใหญ่ที่สุดต่อการมีชีวิตของลูก แม่... มองลูกในแง่ดีเสมอ ไม่มีอคติต่อลูก ดุ ด่า ว่าลูก ก็โดยสุจริตใจ ไม่เคยคิดให้ร้าย ทำลายลูก ไม่จินตนาการเอาเองว่า ลูก ชั่ว เลวอย่างนั้น อย่างนี้ ด้วยเมตตาที่แม่...มีให้แก่ลูก ย่อมนำมาซึ่งความสงบสุข ในครอบครัว หากองค์กรใด สถาบันใด เอาเยี่ยงอย่างแนวคิดวิธีการที่แม่...ปกครองลูกได้ เชื่อได้เลยว่ามีแต่ความเจริญก้าวหน้า

    ReplyDelete