วาทตะวัน สุพรรณเภษัช
8 มกราคม 2554
สนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมารประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้พูดในรายการ “เมืองไทยรายสัปดาห์” ออกอากาศทางเอเอสทีวี วันศุกร์ที่ 31 ธันวาคม 2553 ในโอกาสส่งท้ายปีเก่า มีความน่าสนใจตรงที่ สนธิเปรียบเทียบความสามารถในการบริหารประเทศ ระหว่างนายกฯทักษิณ ชินวัตร กับนายมาร์ค มุกควาย ว่า
หากตัดข้อสงสัยสองเรื่องออกไป คือ
1. ข้อสงสัยในเรื่อง ความไม่สุจริตในการบริหารประเทศ
2. ข้อสงสัยในเรื่อง ความจงรักภักดี
นายมาร์ค มุกควาย นั้น จะเทียบกับนายกรัฐมนตรีไทย ที่ชื่อ ‘ทักษิณ ชินวัตร’ ไม่ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการบริหารราชการงานแผ่นดิน หรือความสามารถในด้านอื่น ที่แสดงถึงศักยภาพความเป็นผู้นำประเทศ...
ผู้เขียนเองคิดไม่ถึงว่า คำพูดอย่างนี้ จะหลุดออกจากปากของหัวโจกฝ่ายปรปักษ์ทักษิณ ที่ชื่อ
สนธิ ลิ้มทองกุล!ท่านผู้อ่านหลาย คงจะเห็นด้วยกับนายใหญ่ฝ่ายพันธมารและค่าย ASTV ในเรื่องความสามารถของบุคคลที่ถูกเปรียบเทียบ ทั้งนี้ก็เพราะว่า
สติปัญญาและความสามารถของ ทักษิณ ชินวัตร เหนือกว่ามาร์ค มุกควาย ทุกกระบวนท่า!
สำหรับท่านผู้อ่าน ที่ติดตามข้อเขียนของ “วาทตะวัน” คงจะตัดข้อสงสัยที่นายสนธิตั้งไปได้ เพราะได้ผมชี้แจงแสดงเหตุ ให้เห็นชัดเจนตลอดมา ว่า
การสอบสวนเอาเรื่องกับทักษิณ โดย ค.ต.ส. ลูกกะโล่ของ “ไอ้บัง กบฎ” ผ่านมาเป็นเวลา 4 ปี เต็ม ยังไม่พบว่า ครับ! ทักษิณ ‘ทุจริต’ ตรงไหนเลย! จนถึงบัดนี้ ยังไม่มีคดีใดที่กล่าวหาว่า “ทักษิณ ทุจริต” เลย จริงหรือเปล่าล่ะ!!?
สำหรับ เรื่องความจงรักภักดี ไม่มีการฟ้องร้องทักษิณในเรื่องนี้เลย แต่คนที่กล่าวหา กลับเป็นฝ่ายโดนฟ้องร้อง ในเรื่องหมิ่นสถาบันเสียเอง!!
ยิ่งนานวันกระบวนการถล่มทักษิณ โดยอิงสถาบันเบื้องสูง ค่อยๆถูกเปิดเผยมาโดยลำดับ ผู้คนได้รับรู้กันอย่างกว้างขวาง ทั้งนอกและในประเทศ ทำให้พี่น้องประชาชนชาวไทย มองเห็นเบื้องหลัง ‘โคตรโสโครก’ ของกระบวนการที่ว่านั้น
ชัดเจน...มากยิ่งขึ้น!!!
การบริหารราชการงานแผ่นดิน นั้นนายมาร์ค มุกควาย คงรู้ตัวดี ว่าเป็นรองทักษิณในทุกกระบวนท่า จนเป็นที่ประจักษ์กับประชาชนแล้ว
ดังนั้น เมื่อก่อนสิ้นปีเก่า มิสเตอร์มุกควายได้แก้เกม โดยพยายามแสดงผลงานรัฐบาลของตัว ด้วยจัดการทอล์คโชว์ในทำเนียบรัฐบาล ซึ่งเจ้าตัวออกงานถนัด ด้วยการเดี่ยวไมโครโฟน ส่งท้ายปี ซึ่งกินเวลา “พล่าม” เพียงคนเดียวเกือบชั่วโมง ไม่ยอมแบ่งเวลาให้แม้แต่คนในรัฐบาล ไม่ว่าเป็นพรรคของตัวและพรรคร่วม
แต่ดูจะผิดหวัง เพราะไม่ดีอย่างที่คาด!
ที่ผมว่าอย่างนั้น ก็เพราะสื่อสารมวลชนต่างๆ ไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร อีกทั้งเสียงตอบรับจากประชาชน กลับไม่ดังอย่างที่รัฐบาลดักดานคิด ดูง่ายๆได้จาก “ไทยรัฐ” กระบอกเสียงสำคัญของคนไทยทั้งชาติ ยังไม่เล่นเป็น “ข่าวนำ” ด้วยซ้ำไป
ทั้งหมดนี้ อาจเป็นเพราะนโยบายของรัฐบาล ตกอยู่ในวังวนเก่าๆ คือลอก หรือไม่ก็แค่ต่อเติมนโยบายเดิมๆของทักษิณตะพึดตะพือ จนราษฎรเขาสังเกตได้ และออกมาส่งเสียงดังๆ ให้ได้ยินทั่วกันว่า
“รัฐบาลโลซกนี่ มันขาดแคลน สติปัญญาจริงๆ!”
ชาวบ้านเขาพูดกันแบบนี้ นายมาร์ค มุกควายกับพวก ต้องเปิดใจกว้าง แล้วรู้จัก...แหกรูหู รับฟังกันบ้าง!!
ท่านผู้อ่าน ที่เคารพครับ
ที่ชาวบ้านเขาว่ากันอย่างนั้น เพราะเมื่อพรรคประชาธิเปรต วิ่งราวอำนาจในการบริหารประเทศได้แล้ว พี่น้องคนไทยเราก็รอดูนโยบาย อันเกิดจากสติปัญญา ของรัฐบาลนายมาร์ค มุกควาย นัน ว่าจะเฉียบแหลม และเป็นประโยชน์กับประชาชน ได้มากน้อยเพียงไร
ในที่สุด สิ่งที่ชาวบ้านได้เห็น ก็คือการที่พรรครัฐบาลโลซกนั้น ได้ลอกนโยบายของนายกฯทักษิณ ชนิดไม่รักษาเหลี่ยม คือลอกแบบโต้งๆ อย่างที่ สารวัตรเฉลิม อยู่บำรุง แกพูดแดกเอาว่า
“ลอกแบบสระอะ สระอา ก็ไม่ยอมตัด!” แปลอีกทีคือ ไม่มีสติปัญญาคิดเอาเอง ว่าอย่างนั้นเถอะ!!
ท่านผู้อ่าน ลองย้อนดูพฤติกรรมของนายอภิสิทธิ์ หรือนาย มาร์ค มุกควาย กันเอาไว้ให้ดี เพราะมันชัดเจนว่า มิสเตอร์มุกควายพูดจาขัดกับตัวเอง (Contradicts) เพราะเคยกล่าวในทำนอง...
“รัฐบาลที่แล้วๆมา ทำอะไรก็ไม่ดีไปเสียทั้งหมด!”
คำถามก็มีอยู่ว่า
“ถ้ารัฐบาลที่แล้วทำไม่ดี แต่ทำไมเอ็ง จึงมาเอาอย่างเขาล่ะ?”
หาก “เอาอย่าง” ก็ต้องแปลว่า ที่เอาอย่างก็เพราะ
“นโยบายทักษิณนั้น ดี ใช่ไหม?”
“ถ้าดีแล้ว เอ็งจะไปลบล้างเขาทำไม?”
“ก็มันดีอยู่แล้ว เอ็งถึงต้องเอาอย่างเขาซี่...ไอ้หน้าโง่!”
ดังนั้น ไอ้ที่พูดว่าเขาไม่ดีอย่างโน้นอย่างนี้ มาถึงวันนี้พรรคประชาธิเปรตก็ต้องยอมจำนน ลอกเลียนแบบตามทักษิณ เอาอย่างทักษิณ
หน้าเฉยตาเฉย!
ท่านผู้อ่านครับ
การลอกเลียนแบบ หรือ “การเอาอย่าง” นั้น ฝรั่งเขาว่า เป็นยกยอที่จริงใจที่สุด หรือ Imitation is the sincerest form of flattery.
จึงอยากจะบอกประชาชนคนไทย ได้รับรู้ความจริงนี้ โดยทั่วกัน ณ วันนี้ว่า นายมาร์ค มุกควาย นั้น คงชื่นชม “ทักษิณ” เป็นอย่างมาก เพราะเมื่ออยู่ในฐานะหัวหน้าฝ่ายค้าน ก็ด่าเขาและค้านตะพึด
แต่ครั้นวันนี้...
บุญพาวาสนาถีบ ให้ได้เข้ามาเป็นรัฐบาล แต่พฤติกรรมการลอกเลียนแบบ หรือ “เอาอย่าง...ทักษิณ!”
ดันโผล่ออกมาให้ประชาชน เห็นได้ชัดเจน อย่างไม่มีอะไรเคลือบแคลงแฝงแอบ แต่อย่างใดเลย
เพียงแต่ลอกไปใช้ อย่างด้อยประสิทธิภาพ และออกลูกบ้องตื้น’ เท่านั้น!
นี่เป็นเครื่องแสดงให้เห็นเป็นที่ประจักษ์ ต่อพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหลาย ว่า วิสัยทัศน์การเป็นผู้นำระหว่าง “ทักษิณ” กับ นายมาร์ค มุกควาย นั้นห่างกันคนละชั้น หรือไกลกันคนละโยชน์
ถ้าเอาสำนวนฝรั่ง Imitation is the sincerest form of flattery. ที่พูดถึง เข้ามาจับด้วยแล้ว หากผมจะพูดอีกอย่างหนึ่ง ว่า
“นายมาร์ค มุกควาย คือ ‘แฟนคลับ’ ตัวจริงของ ทักษิณ ชินวัตร!!!?”
ท่านผู้อ่าน ลองพิจารณาดูนะครับว่า
ผมพูดถูกหรือเปล่า!?
การที่ประชาชนมองว่า รัฐบาลของนายอภิแสบนั้น ลอกเลียนนโยบายของทักษิณอย่างที่กล่าวมาแล้ว จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่รัฐบาลนี้ที่ห่วงใยภาพลักษณ์ของตัวเองมาก เพราะแทบไม่มีทางทำให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า รัฐบาลโลซกบริหารบ้านเมืองได้ดี ขนาดจะแถลงผลงาน ก็ต้องให้ไอ้ ABAD POLL ที่ผู้คนเขาบอกว่า เป็น “โพลหน้าม้า” ออกมาตอหลดด้วยการรับประกันล่วงหน้า โดยเอาผลโพลออกมาแหลกับชาวบ้านว่า นายมาร์ค มุกควาย ประสบความสำเร็จ ในการบริหารประเทศ จึงได้คะแนนจากประชาชนในระดับดี!
แต่ไม่ได้ผล
ชาวบ้านเขาไม่เชื่อ!!
ทั้งนี้ เพราะมีโพลของสถาบันพระปกเกล้าฯ ดันออกมาในวันถัดมา ได้ทำลายน้ำหนักโพลจอมเลียไข่ และหักหน้านายมาร์ค มุกควาย อย่างไม่อ้อมค้อม การบริหารประเทศของนายมาร์ค มุกควาย นั้น...
“สู้แม้วไม่ได้!”
น.ส.พ.มติชน รายวัน ประจำวันเสาร์ที้ 25 ธ.ค.2553 เสนอข่าว สถาบันการศึกษาประชาธิปไตย อย่าง “พระปกเกล้า” รายงานชี้ชัดด้วยโพลของตน ชัดเจนแจ่มแจ๋ว ว่าประชาชนพอใจ “ยุคแม้ว” มากที่สุด!!
เขาพูดออกมาชัดๆ ว่า “ยุคแม้ว” อย่าได้ทะลึ่งฟังเป็นเพี้ยนเป็น “ยุคมาร์ค” อีกล่ะ!!!
หากท่านผู้อ่าน คลิกเข้าไปอ่านข้อเขียนของผม ในตอน
Bad Ex-Best Ex!!! (ทักษิณฯ ผู้นำยอดแย่ หรือ ยอดเยี่ยม?)
http://www.vattavan.com/detail.php?cont_id=257 ท่านจะสังเกตเห็นว่า เมื่อใดก็ตาม ที่มีการทดสอบ ความนิยมประชาชนแบบ “ฉับพลันทันที” โดยไม่มีการเตรียมการ หรือ “เตี๊ยม” กันล่วงหน้าแล้ว คะแนนนิยม “นายกฯทักษิณ” ก็จะชนะ “มาร์ค มุควาย” และอดีตผู้นำคนอื่นทุกครั้งไป ล้วนแต่ความนิยมด้อยกว่า “นายกฯทักษิณ” ทุกคน ไม่ว่าจะเป็น สุรยุทธ อานันท์ หรือแม้แต่ เปรม!
ตัวอย่างที่ผมยกให้เห็นกันชัดๆ ก็คือรายการวิทยุ ที่จัดโดย นักจัดรายการรุ่น “ปลาร้าค้างปี๊บ” อย่าง “รัชชพร เหล่าวณิชย์” ซึ่งจัดรายการอยู่ที่คลื่น FM 101 MHz เป็นคลื่นของทหาร บก.สูงสุดเดิม แต่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น “กองทัพไทย” และปฏิบัติการออกอากาศ “ไล่กระทืบ” ทักษิณกับพวก มาตั้งแต่ยุคนายพล“บุญเสี้ยม” เป็น ผอบอ. ผู้ดำเนินรายการ ได้ฉกฉวยโอกาสตอนฝรั่งที่ชื่อ “ไอ้โจชั่ว” หรือ Joshua E.Keating เขียนเรื่อง Bad Exes โดย ระบุว่า
ทักษิณติด 1 ใน 5 ผู้นำยอดแย่!
ยัยรัชชพรฯ ผู้ดำเนินรายการ ให้ผู้ฟังโหวตว่าใครเป็นผู้นำในดวงใจของคนไทย คงกระหยิ่มว่า ทักษิณคงโดนกระทืบแหลกแน่ แต่ผลปรากฏว่า
ทักษิณ...ชนะขาด!!
ตอนประกาศผล ยัยเฒ่ารัชชพรฯ ถึงกับเสียงเครือเลย...555
ที่มาเติมความชัดเจนในเรื่องนี้ ให้พี่น้องประชาชน คือ “ทีมการเมือง” ของ “ไทยรัฐ” ฉบับวันที่ 27 ธ.ค.2553 ได้พูดจาอย่างไม่อ้อมค้อมว่า ผลโพลของสถาบันอย่างพระปกเกล้า น่าเชื่อถือกว่า “อัดสำคอมเมิร์ซ” โพล หรือ ABAD POLL จอมเลียไข่นัก!
ที่ถูกใจประชาชน อีตรงที่ “ไทยรัฐ” วิจารณ์แบบตีแสกหน้าว่า รัฐบาลของประชาธิเปรตนั้นถนัด
“บริหารแบบไม่บริหาร”
แล้วยังหวดกลางบาลซ้ำด้วยว่า
“อภิแสบ” จะผูกขาดการแพ้ “ทักษิณ”
(ท่านผู้อ่านว่า พวกมันจะรู้จัก ‘อาย’ กันบ้างไหมเนี่ย!?)
นายอภิแสบออกมาแก้ตัว ในทำนองอ้อนกับประชาชนในวันรุ่งขึ้นว่า
ตนยอมรับว่าทักษิณมีผลงานมากกว่า แต่ให้เหตุผลว่า หากตนมีเวลาบริหารบ้านเมืองได้มากเหมือนทักษิณ ชาวบ้านจะหันมานิยมชมชอบตนมากกว่าทักษิณแน่!
ใครจะมีความเห็นอย่างไร ต่อคำพูดของหัวหน้าพรรคประชาธิเปรตอย่างไร ก็ไม่ว่ากัน แต่ในความเห็นของผู้เขียนแล้ว กลับเห็นว่านี่เป็นการสำแดงความโง่เขลา ของหัวหน้าพรรคดักดาน ส่งท้ายปีเก่าเลยทีเดียว
อยากจะถามคนพูด ด้วยคำถามง่ายๆ ว่า
ทำไมนายมาร์ค มุกควาย ถึงไม่รู้จักคิดบ้างว่า
การที่บริหารราชการมาจนกระทั่งถึงบัดนี้ มีผู้คน ‘เกลียดชัง’ ทั้งตัวเขา และรัฐบาลโลซกที่เขาบริหารอยู่ เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างมาก แล้วหากบริหารต่อไปจนหมดวาระ คืออีกประมาณเกือบ1 ปี ท่านผู้อ่านลองคิดดูนะครับว่าจะมีผู้คนเกลียดชัง เพิ่มขึ้นอีกมากมายแค่ไหน?
ทำไมพวกมัน ไม่คิดกันอย่างนี้บ้าง (วะ)!!!