Thursday, June 10, 2010

จุดจบความเป็นธรรม...จุดจบของอำมาตย์

ไพร่แดง

     เมื่อหลายสิบปีก่อน มีผู้ออกมากล่าวว่าประเทศไทยยังไม่เหมาะที่จะเป็นประชาธิปไตย เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังการศึกษาน้อย หรือยังโง่อยู่...ถึงวันนี้ เวลาก็ได้พิสูจน์ความจริงออกมาให้เห็นแล้วว่า การศึกษาที่ได้มาจากโรงเรียน หรือมหาวิทยาลัย ไม่สามารถรับประกันได้ว่า จบการศึกษา รับใบปริญญาแล้ว จะเข้าใจเรื่องประชาธิปไตยดี


     จิตสำนึกต่างหาก ที่เป็นของจริง จะเห็นได้จากมวลชนคนเสื้อแดง ออกมาทวงถามในเรื่องที่เขาเห็นว่าไม่เป็นประชาธิปไตย เพราะเขาเห็นว่าเขาเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย เพราะพวกเขาเห็นว่ารัฏฐาธิปัตยที่ได้มาโดยคนส่วนใหญ่เป็นของพวกเขา พวกเขาได้เลือกแล้ว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น จะดีหรือเลว พวกเขายินดีรับผิดชอบ ในการเลือกตั้งครั้งต่อไป ไม่ใช่อำมาตย์มาคิดแทน ไม่ใช่ทหารที่เป็นสมุนรับใช้มาคิดแทน


การเมืองเป็นเรื่องของผลประโยชน์ อำมาตย์กับสมุนรับใช้เข้าใจเรื่องนี้ว่าอย่างไร?

     มันเป็นผลประโยชน์ของกลุ่มอาชีพ กลุ่มผลประโยชน์ทางสังคมที่มีอยู่หลากหลายมากมาย การตัดสินใจของพวกเขา อำมาตย์จะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม แต่จะต้องเคารพ

     ไม่ใช่ใช้ อำนาจเถื่อน มาบิดเบือนหนทางที่เป็นประชาธิปไตย ที่ทอดยาวสู่อารยธรรมใหม่ ควบคู่ไปกับความเปลี่ยนแปลงโลก ที่ไม่เคยหยุด

     อำมาตย์และสมุนไม่สามารถฉุดกระชากลากดึงประเทศไทยให้ตกต่ำได้อีกต่อไป ความไม่เป็นธรรมในสังคมที่เกิดขึ้น มันได้เสียดแทง บาดลึกเข้าไปในความรู้สึกของประชาชนที่คุณคิดว่าเขาโง่ ครั้งแล้วครั้งเล่านั้น มันเป็นสิ่งตอกย้ำความเข้าใจถึงความเจ็บปวดที่ได้รับ ความหิวเป็นสิ่งบ่งบอกถึงการถูกเอารัดเอาเปรียบ และขาดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งความรู้และทรัพยากร

     นานมากพอแล้วที่อำมาตย์ และสมุนคึกคะนองในอำนาจ ถึงวันนี้ประชาชนตื่นขึ้นมาทวงถามรัฏฐาธิปัตย ของพวกเขา ซึ่งเป็นความชอบธรรม เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ ปฏิกิริยานี้อำมาตย์และสมุนเป็นตัวเร่งเอง

     การแสวงหาอำนาจด้วยการใช้ความป่าเถื่อนแย่งชิง รัฏฐาธิปัตย ของประชาชนที่มอบหมายให้ พรรคไทยรักไทย โดย คมช. ที่มีการมีการวางแผนการทำงานเป็นขั้นเป็นตอน ร่วมกันกับ พันธมาร และพรรคการเมืองเก่าแก่

     การปล้น ฆ่า รัฐบาลพรรคพลังประชาชน ตายคว่ำหน้าในกระทะ ขณะมือถือตะหลิวโดยศาล หาข้อกฎหมายไม่ได้แต่ใช้พจนานุกรมแทน และในช่วงเวลาเป็นรัฐบาลเพียงปีเศษ ก็ได้เข่นฆ่าประชาชนมือเปล่าที่เรียกร้องประชาธิปไตยถึง 3 ครั้ง นับ 100 ศพ บาดเจ็บ นับ 1000 คน แล้วยัดข้อหาผู้ก่อการร้าย

"เป็นเครื่องบ่งบอก ถึงจุดจบของความยุติธรรมประเทศนี้
และกำลังเป็นเครื่องบ่งบอกถึงจุดจบของระบอบอำมาตย์เช่นกัน"

4 comments:

  1. คนหัวโต ไม่รู้วิธีสมัครเป็นสมาชิกเพื่อจะ chat
    ทุกครั้งที่เปิดหน้าเวปสภา แม้จะสามารถ chat ได้ แต่ก็จะได้รับการตั้งชื่อใหม่ทุกครั้ง และถ้าหากต้องการใช้ชื่อเดิม จะต้องทำอย่างไร

    ReplyDelete
  2. รัฐฆาตกรที่มีปีศาจอำหิตสิงสู่ครอบงำจิตใจ เขาทำได้ทุกอย่างที่เขาอยากทำครับ
    ชีวิตของประชาชนในสายตาของพวกเขาแค่ธุลีดิน

    ReplyDelete
  3. ระบอบการเมืองแบบประชาธิปไตยที่ใครๆ เรียกหา เรียกร้องมันแค่แนวคิดตะวันตก ไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การเมืองและการปกคครองต้องทำเพื่อประชาชน ทำแล้วประชาชนได้รับประโยชน์และมีความสุข เราควรได้นักปกครองหรือผู้ปกครองที่มีความซื่อสัตย์ จริงใจและตั้งใจทำเพื่อประชาชน ไม่คิดร้ายต่อประชาชน หรือปล้นชาติ ปล้นประชาชน ทำเพื่อตนเอง พวกพ้อง ไม่โกงหรือขายชาติ

    ReplyDelete
  4. ตะหลิวเล็กJuly 6, 2010 at 1:00 AM

    “โดยธรรมชาติ คนเราล้วนเกิดมามีเสรี เท่าเทียมกัน และมีอิสรภาพ
    ไม่มีใคร ที่จะถูกผลักไสออกจากที่พักของตน หรือต้องตกอยู่ใต้อำนาจ
    การปกครองของผู้อื่น โดยที่เจ้าตัวไม่ยินยอมพร้อมใจ...”
    John Locke เขาว่าไว้เมื่อประชาธิปไตยเพิ่งอุแว้ ท่านคงโต๊ะใจหมกเลยถ้ารู้ว่า คนไทยยังมีเลยที่ถูกผลักไสให้ออกจากความเป็นคนไทยอย่างไม่คิดตะขิดตะขวงใจเลยว่ามันขัดหลักที่สาธุชนเขายอมรับ

    ReplyDelete